海の幸学校
Umino Sachi Gakkou
เมืองไคฟุ
เมืองไคฟุ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใน จังหวัดคานางาวะ นครคามากูระ ประเทศญี่ปุ่น ตัวเมืองอยู่ติดริมทะเล ชาวเมืองส่วนมีทั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้มานาน และบางส่วนที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ได้ไม่นานนัก ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย สงบสุข และอบอุ่น มีพื้นที่ทางการเกษตร
ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อยู่ติดทะเลมีลมพัดสบาย ทั้งนี้ทางเมืองยังให้ความสำคัญกับฤดูกาลต่าง ๆ พืชพันธุ์ป่าไม้มีครบทุกฤดูกาล ทำให้เมืองแห่งนี้มีกิจกรรมหรือเทศกาลภายในเมืองให้ได้มาเยี่ยมชมกันในทุก ๆ ฤดูกาลตลอดทั้งปี เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองแห่งนี้
การเดินทาง
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนภายในเมืองแห่งนี้ มักจะเดินทางกันด้วยรถส่วนตัว จักรยาน การเดินเท้า และรถเมล์ ด้วยพื้นที่ที่ใกล้กันมากทำให้ผู้คนค่อนข้างเดินทางได้อย่างสบายไม่เหนื่อยมากจนเกินไป
เมืองแห่งนี้มีรถไฟเดินทางรอบเมืองผู้คนบนรถไฟจะได้เห็นวิวชายหาดของเมือง ผ่านเส้นทางหน้าศาลเจ้าที่เห็นไปด้วยพุ่มดอกไฮเดรนเยีย และผ่านพื้นที่ทางการเกษตรและออกไปยังเมืองอื่น
รถเมล์ก็เช่นกัน รถเมล์สายนี้มีป้ายอยู่รอบเมืองเพื่อความสะดวกสบายของผู้คนภายในหมู่บ้าน มีจุดขึ้นรถอยู่ 4 จุดด้วยกัน พื้นที่พักอาศัยใกล้โรงพยาบาล หน้าอควาเรียม ข้างโรงเรียนไคฟุ และฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอุมิโนะซาจิ
หมู่บ้านอาวาฮามะ
หมู่บ้านอาวาฮามะ เป็นย่านการพักอาศัยที่ค่อนข้างทันสมัย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีโรงแรมที่พักบ้างประปราย โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตนี้มักจะเป็นชาวบ้านที่อยู่พึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ ครอบครัวใหม่ ๆ มีชาวบ้านที่อยู่มานานบ้างประปราย และส่วนหนึ่งมักจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในเมืองไคฟุ
ด้วยความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พื้นที่นี้จึงค่อนข้างคึกคักและเหมาะกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย
ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1967 โรงเรียนอนุบาลชิโอะอะวะ เป็นโรงเรียนอนุบาลเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่คู่เมืองไคฟุมากว่า 35 ปี บรรยากาศการเรียนการสอนของโรงเรียนนี้ดูอบอุ่นราวกับครอบครัว มีการเรียนทั้งในห้องเรียน และทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสธรรมชาติจากทะเลและภูเข าใกล้เมือง ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเป็นอิสระและสนุกสนาน
หมู่บ้านอาโอฮามะ
หมู่บ้านอาโอฮามะ เป็นพื้นที่การพักอาศัยที่ค่อนเงียบสงบลง มีวิวทิวทัศน์จากพื้นที่การเกษตร ชายป่า และชายหาดอาวะ ผู้คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่แล้วเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่อาศัยอยู่มานาน เกษตกร และผู้อยู่อาศัยชั่วคราว เช่น พนักงานใหม่ นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น
โดยในพื้นที่ของหมู่บ้านนี้ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ค่อยมีเสียงรบกวนเท่าไหร่นัก เหมาะแก่การเรียน พักผ่อน และใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งปี
ทุ่งหญ้าข้าง ๆ โรงเรียนมัธยมไคฟุถูกประดับไปด้วยทุ่งดอกนาโนะฮานะเต็มไปหมดจนดูสวยงามยิ่งในตอนที่ต้นซากุระบานท่านอาจจะได้เห็นทั้ง 2 ต้นอยู่ในภาพเดียวกันก็ได้นะ!
พื้นที่ป่าเขาฝั่งตรงข้ามโรงเรียน
ป่าเขาแห่งนี้มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งลำธาร แม่น้ำ และน้ำตก มีพื้นที่ที่เหมาะแก่การชมดาว ตั้งแคมป์ อยู่ในบริแวณใกล้พื้นที่เกษตร และแหล่งน้ำ แต่เนื่องจากเป็นป่าป่าไม้ผลัดใบผสมรกทึบ หากเดินเข้าไปอาจเกิดการหลงทางได้ ทางหมู่บ้านไคฟุจึงได้ออกมาตราการห้ามไม่ให้ผู้คนเข้าไปเสี่ยงอันตราย หากไม่มีผู้ชำนาญพื้นที่เข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตามมักจะมีผู้ฝ่าฝืนแอบเข้าไปเพื่อท้าทายความกล้า หรือล่าท้าผีอยู่บ่อยครั้งจนชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบชายป่าต้องคอยสอดส่องอยู่เสมอ
โซนนอกพื้นที่ป่า
เรือนน้ำชาของคุณฮานะโชบุเป็นเรือนน้ำชาทรงญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่บริเวณชายป่า บรรยากาศสงบเงียบ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ที่เสิร์ฟชาร้อนในถ้วยทรงญี่ปุ่นและมีขนมหวานญี่ปุ่นน่ารักมากมาย ที่นี่มีชาขึ้นชื่อคือชาดอกฮานะโชบุ หรือ ชาดอกไอริส ตามชื่อของเจ้าของร้าน ที่นี่ไม่เป็นเพียงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังเปิดรับเหล่านักเรียนที่ขยันทั้งหลายให้มาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อีกด้วย
โซนในพื้นที่ป่า
มีตำนานเล่าขานถึงบาเกะเนโกะตนหนึ่งที่กำลังหนีจากการไล่ล่าของมนุษย์ มันได้หลบหนีเข้าป่าจนหลงมาเจอเข้ากับศาลเจ้าแห่งนี้ ด้วยสภาพสะบักสะบอมไ่ม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ มันจึงได้ถูกเจ้าของศาลเจ้ารับเลี้ยงไว้ในฐานะแมวประจำศาลเจ้า
ในเวลานั้นเองเจ้าแมวก็ได้เข้าใจมนุษย์มากขึ้นทั้งยังจงรักภักดีต่อผู้ช่วยชีวิตมันเป็นอย่างมาก มันมักจะคอยปกป้องศาลเจ้าจากสิ่งชั่วร้ายและคอยปกป้องผู้คนในเมืองอยู่เสมอ แต่ทว่าเมื่อเขาคนนั้นต้องจากไปด้วยโรคประจำตัว และด้วยวัยชรา...
เจ้าแมวตัวนี้ก็ได้หายไปจากศาลเจ้าอย่างไร้ร่องรอย ไม่อาจทราบได้ว่ามันหายไปไหน รู้แต่เพียงว่ามันนั้นยังคงคอยดูแลผู้คนในเมืองแห่งนี้อยู่เสมอ บางครั้งที่นี่ก็อาจปรากฏร่างของใครบางคนยังคงแวะเวียนมาบ่อย ๆ มันจึงเป็นจุดที่คนมักจะชอบเข้าไปล่าท้าผีอยู่บ่อย ๆ แต่ดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับประสบการณ์ขนหัวลุกกลับไป